การศึกษาและการเรียนรู้ด้วยตัวเอง​

การศึกษาและการเรียนรู้ด้วยตัวเอง​

การศึกษาและการเรียนการสอน (Education and Schooling) พวกเราเชื่อว่าโรงเรียนไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมหรือถูกต้องสำหรับเด็กๆในการที่จะค้นหาความสนใจส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ มันทำให้ความตื่นตัวของเด็กเชื่องช้าในการเรียนรู้และมีแรงกระตุ้นทางความคิดสร้างสรรค์น้อย

กานต์​ (Karn) สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขา ภาษาอังกฤษธุรกิจ จาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเธอยังไม่ชื่นชอบเรื่องธุรกิจด้วยความพอใจของเธอเอง เนื่องจากมุมมองทางด้านธุรกิจจะมุ่งเน้นเรื่องผลกำไรเป็นที่ตั้ง แต่ปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิตสำหรับเธอมีความสำคัญมากกว่าเรื่องผลกำไร นั่นคือสิ่งที่เธอไม่ได้เรียนรู้จากการเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย

เดฟ​ (Dave)​ได้เข้าศึกษาโรงเรียนเป็นเวลาทั้งหมด 14 ปี และเขายังคงบอกว่า เขาไม่ได้เรียนอะไรเกี่ยวกับการดำรงชีวิตตามแบบพื้นฐานได้อย่างไร โรงเรียนไม่ได้สอนให้คุณรู้จักว่าเลี้ยงตัวเองได้อย่างไร ทำเสื้อผ้าใส่เองได้อย่าง (ถ้าจำเป็นต้องทำ) และสร้างที่อยู่อาศัยเองได้อย่างไร โรงเรียนไม่ได้สอนคุณเพื่อที่จะทำนายเรื่องอากาศหรือ ปรับตำแหน่งของคุณเองได้จากดวงดาว โรงเรียนไม่ได้สอนให้คุณพึงพอใจเรื่องความงาม เรื่องให้ความรักอย่างไร สร้างความรักความสัมพันธ์ได้อย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร เราจะมีความสุขได้อย่างไร

แต่ โรงเรียนได้เตรียมตัวคุณให้พร้อมสำหรับชีวิตในอนาคตของคุณภายในระบบ การเติมเต็มความจำเป็นพื้นฐานทางด้วนชีววิทยานั้นไม่ได้ปล่อยให้คุณจัดการกับมันเอง แต่มันอยู่ในน้ำมือของเหล่าคนที่เรียกว่า ผู้รู้และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กับใครก็ตามที่ไม่มีอำนาจอะไรเลย

เราทั้งสองคนเรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง แต่ก็จนถึงตอนนี้ก็ลืมส่วนใหญ่ที่เราได้ล่ำเรียนมาไปแล้วในชื่อที่เรียกว่าสถาบันการศึกษา การมองกลับไปยังวิชาที่เรียนส่วนใหญ่เป็นแค่เรื่องเสียเวลาอย่างมากและวิชาเหล่านั้นก็ไม่ได้สอนอะไรที่เราจำเป็นต้องใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันให้กับพวกเราเลย

ความรู้ส่วนมากที่เราได้เรียนรู้มานั้นเป็นสิ่งต่างๆที่เราได้เรียนมาจากการอ่านหนังสือหลังจากที่เราเรียนจบแล้ว ถ้าเรามองย้อนกลับไป  เราจะตระหนักได้ว่า เหล่าครูบาอาจารย์ของพวกเราได้ทำการล้างสมองของเราไปมากเพียงใดด้วยการโกหกและเรื่องเล่าที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของวัฒนธรรมนี้​ ​เช่นว่า

technology makes everything better, humans are better than other animals, progress is natural

หรือ​ คุณจะต้องหาเงิน  เทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมากกว่า มนุษย์เก่งกาจมากยิ่งกว่าสัตว์อื่นๆ ความก้าวหน้าเป็นเรื่องธรรมชาติ

มนุษย์ยุคหินเป็นมนุษย์ที่โง่เขลา ระบบทุนนิยมและระบบประชาธิปไตยคือหนทางเดียวที่ถูกต้อง อารยธรรมหมายถึงวัฒนธรรม และเรื่องอื่นๆ)

หนังสือของคุณ ฟูกุโอกะ นั้นเต็มไปด้วยการอ้างอิงที่ค่อนข้างรุนแรงต่อเรื่องระบบสถานศึกษาของอารยธรรมของพวกเรา เปรียบเทียบเรื่องความจำเป็นของการตัดต้นไม้ “ให้ดูเป็นรูปร่าง”  มันจึงกลายไปเป็นคำถามเกี่ยวกับประโยชน์ของการเข้าศึกษาเอง และตำหนิให้กับเรื่องความห่างเหินไปจากธรรมชาติที่เพิ่มมากขึ้น มาถึงจุดที่ว่าต้นไม้เปลี่ยนรูปทรงไปจากลักษณะตามธรรมชาติ การตัดแต่งกิ่และฆ่าแมลงให้หมดสิ้นกลายมาป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ  มาถึงจุดที่ว่ามนุษย์แยกตนเองออกจากชีวิตที่ติดกับธรรมชาติ  การเข้าศึกษาเล่ารียนจึงกลายมาเป็นรื่องที่จำเป็น ที่อื่นๆ คุณ ฟูกุโอกะ ได้บันทึกมันไว้ท่ามกลางตัวอย่างอื่นๆสำหรับความไร้ประโยชน์ของ “การพัฒนา” นวัตกรรมต่างๆของมนุษย์

เหตุผลที่ว่าทำไมการพัฒนาปรับปรุเทคนิคของมนุษย์นั้นดูเหมือนจะมีความจำเป็นก็คือ ความสมดุลทางธรรมชาติได้ถูกรบกวนมาก่อนแล้ว จากเทคนิคเดียวกันที่พื้นดินได้กลายเป็นว่าต้องขึ้นอยู่กับพวกเขา เส้นทางของการให้หตุผลเช่นนี้ไม่ได้ใช้เพียงแค่กับเรื่องเกษตรกรรมเท่านั้น แต่ใช้เป็นเหตุผลกับมุมมองอื่นๆของสังคมมนุษย์อีกด้วย บรรดานายแพทย์และยารักษาโรคจึงกลายเป็นเรื่องที่จำเป็น เมื่อผู้คนทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมอย่างมาก การข้าศึกษาแบบเดิมก็ไม่มีคุณค่าใดตามธรรมชาติของมัน แต่มันก็กลายมาเป็นเรื่องที่จำเป็น เมื่อนุษย์ได้สร้างสภาพความเป็นอยู่ในแบบที่ว่าใครคนหนึ่งจะต้องกลายเป็นคนที่ได้รับการศึกษา เพื่อที่จะสามารถอยู่ในสังคมได้  เราเชื่อว่าเรื่องชีวิตเองคือโรงเรียนที่ดีมากที่สุด และเด็กๆก็จะมีแรงกระตุ้นองได้มากสุดถ้ามันไม่มีเรื่องที่ใช้บังคับเด็ก ลูกสาวของเพื่อนที่เรารู้จักเขาเรียนเองที่บ้าน ได้เรียนการอ่านและเขียนภาษาไทยและภาษาอักกฤษได้เพราะว่าเธอต้องการที่จะเรียนเอง และเธอเขียน อ่าน และพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากกว่าด็กคนอื่นที่รุ่นเดียวกับเธอ เด็กๆเห็นว่าผู้ใหญ่กำลังอ่านหนังสือและจึงเกิดความอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งที่พวกเราเห็นว่ามันน่าสนใจมากเกี่ยวกับคำเขียนเหล่านั้น และนี่ก็เป็นรูปแบบพื้นฐานของการเรียนรู้มาเป็นเวลากว่า 3 ล้านปี ของวิวัฒนาการของมนุษย์  เด็กๆเห็นว่าผู้ใหญ่ทำอะไรกัน พวกขาก็จะเห็นว่ามันน่าสนใจ และจากนั้นเด็กๆก็จะรียนรู้เพื่อที่เลียนแบบพวกเขา และเด็กๆที่ติบโตมาเช่นนั้นก็คงจะทำสิ่งดียวกันที่ได้เรียนรู้มาวันนี้ถ้าหากพ่อแม่ของพวกเขาอนุญาตให้พวกขาทำในสิ่งที่อยากทำ และถ้าหากพวกเขาไม่มีงานทำที่มันน่าเบื่อ 

No comments.