ทางสวนฟื้นฟูวิถียั่งยืนเปิดรับคนอาสาสมัครที่มีความสนใจเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรียนรู้วิถีชีวิตอย่างเรียบง่ายด้วยการพึ่งพาตนเองตามแนวทางของการทำเกษตรกรรมยั่งยืน
(ณ เวลานี้ทางสวนเปิดรับคนอาสาสมัครจำนวนจำกัดชั่วคราวเนื่องจากติดวิกฤโควิด19)
ทั้งนี้ หากคุณมีความสนใจเข้าพักกับสวนเราไม่ว่าจะเป็นเข้าพักไม่นานและไม่ประสงค์เข้าพักแบบคนอาสาสมัครหรือประสงค์เข้าพักแบบคนอาสาสมัครนั้น ทางสวนขอต้อนรับทุกคนที่ต้องการเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจในสวนของเราแล้วแต่ว่าห้องพักว่างหรือไม่และขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล!
การเข้าพักเป็นคนอาสาสมัครกับสวนฟื้นฟูวิถียั่งยืน เราขอให้ทุกท่านที่มีความประสงค์เข้าเป็นคนอาสาสมัครกรอกข้อมูลตามแบบสอบถามด่านล่าง! กรุณากรอกแบบสอบถามด้วยความสมัครใจจริง ซึ่งก็เป็นเพียงแค่คำถามโดยทั่วไปเพื่อที่ทางเราจะทราบข้อมูลเบื้องต้นจากคุณเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการตอบรับคนอาสาสมัครเข้ามาพักกับพวกเราเท่านั้น (ข้อมูลส่วนตัวของคุณที่กรอกในแบบฟอร์มจะถูกเก็บเป็นความลับและเป็นที่ทราบกันเพียงแค่คุณกับทางสวนเราเท่านั้น) คลิกแบบฟอร์มสมัครเข้าพักเป็นอาสาสมัคร
โดยทางสวนจะจัดเตรียมห้องพักสำหรับคนอาสาสมัครอยู่สองห้องได้แก่
รูปบ้านพักคนอาสาสมัคร
- ห้องพักเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ จำนวน 1 ห้อง มีห้องน้ำแยกห้อง ภายในห้องประกอบด้วย ที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม (ผ้าเช็ดตัวหาซื้อได้ที่ตลาดหรือนำผ้าเช็ดตัวของคุณมาด้วย) **เหตุผลที่ทางเราไม่เตรียมผ้าเช็ดตัวให้เนื่องจากเป็นของใช้ส่วนตัว
- ห้องพักเตียงเดียวบังกะโลไม้ทรงไทย จำนวน 1 หลังพร้อมเครื่องนอน
********
ทางสวนเราจัดเตรียมอาหารให้คนอาสาสมัคร 2 มื้อ ได้แก่ มื้อกลางวันและมื้อค่ำแต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์จะไม่เคร่งจนเกินไปหากเราหิวเราก็เตรียมอาหารร่วมกันได้ทุกมื้อ คุณจะมีวันหยุดพักผ่อนหย่อนใจ 2 วันต่อสัปดาห์ กล่าวคือเราช่วยกันทำงานในสวนและทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันทั้งวันหรือไม่ทั้งวันก็ได้แล้วแต่ความพร้อม
ทางสวนมีรถจักรยานยนต์ 1 คัน ให้คุณยืมหรือเช่าสำหรับวันหยุดพักผ่อนของคุณเพียงแค่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและเติมน้ำมันเองและที่สำคัญคุณต้องมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตัวมาด้วย!
ช่วงฤดูหนาวที่อากาศค่อนข้างเย็นและหนาวมากจะเป็นช่วงเดือน (พฤศจิกายน-ธันวาคม-มกราคม) หรืออาจจะถึงเดือนกุมภาพันธ์ หากคุณประสงค์ที่จะเข้ามาพักช่วงเดือนนี้ก็จะได้บรรยากาศหนาวเย็นสุดๆและมียังบรรยากาศทะเลหมอกเกือบทุกเช้าในช่วงนี้ บางครั้งอุณหภูมิก็จะลดลงต่ำถึง 12 องศาเซลเซียส (แม้ว่าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 15-20 องศาเซลเซียส) ดังนั้นถ้าคุณมาช่วงนี้จึงจำเป็นต้องเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย!
ในขณะที่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงที่ต้องพักผ่อนกลางวันค่อนข้างนานเพื่อให้แดดลดลงสักหน่อยเราก็จะเริ่มทำงานในสวนกันต่อ แต่ช่วงเช้าจะอากาศดีมาก หากคุณต้องการเข้าพักช่วงเดือนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลเมื่อเทียบกับทางภาคใต้หรือภาคอีสานหรือแม้กระทั่งในแถบกรุงเทพฯ สวนเราก็ยังเย็นร่มรื่นตลอดทั้งวันและทั้งคืน ไม่ถือว่าร้อนอบอ้าวจนเกินไปเมื่อเทียบกับสวนอื่นๆเพราะสวนเราตั้งอยู่บนสันเขานั่นเอง!
หลังจากช่วงฤดูร้อนผ่านไปก็จะเข้าเป็นฤดูฝน ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคมก็จะเป็นช่วงที่ฝนตกค่อนข้างหนักและเกือบจะทุกวันบางครั้งฝนจะตกติดต่อกันสองสามวันแบบไม่หยุดตกเลยแต่ช่วงเดือนกันยายนจะมีฝนในน้อยลง หากคุณต้องการเข้าพักช่วงฤดูนี้อาจจะต้องมากับเสื้อกันฝนด้วยและเตรียมเสื้อผ้าเปลี่ยนมาให้พอใช้เนื่องจากอาจจะเปียกฝนและเสื้อผ้าแห้งไม่ทันถ้าวันไหนไม่มีแดดเลย เป็นต้น
ด้วยเหตุผลที่ว่า ณ เวลานี้ สวนของเรายังไม่มีไฟฟ้าจากทางรัฐ! ดังนั้นมันจะช่วยได้เยอะเลยทีเดียวถ้าคุณเอาไฟฉายหรือหม้อไฟขนาดเล็กติดตัวมาด้วย นั่นหมายความว่าสวนของเราไม่มีอินเตอร์เน็ตหรือ WiFi เช่นกัน (และสัญญาณโทรศัพท์จะไม่ค่อยดีนัก ต้อนรับสู่ป่าเขา!) แต่ทางเราสามารถชาร์จโทรศัพท์ให้คุณได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีถ้าหากคุณถือซะว่าการเข้าพักผ่อนของคุณเป็นเสหมือน “การห่างจากโลกโซเชียลสักพัก” (offline retreat) หรือถือเป็นการรักษาความติดเทคโนโลยีสักพักไปในตัว!
กรุณาแจ้งครอบครัวและเพื่อนๆของคุณว่าคุณจะติดต่อกลับไปไม่ได้ตลอดเวลาเพื่อว่าพวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลใจ!
เนื่องจากว่าสวนฟื้นฟูฯของพวกเรายังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นและไม่มีต้นทุนที่สูงนักสำหรับการดูแลคนอาสาสมัครหลายคนในเวลาเดียวกันหรือทางเราไม่ได้มีรายได้เสริมจากทางอื่น ทางสวนเราจึงยังต้องเก็บเงินจากคุณสำหรับค่าอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ (เราขอใช้คำว่าถือเป็นปัจจัยบริจาค) ในจำนวน 250 บาทต่อคืนและต่อคน รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม!
สวนของเราเป็นสวนเกษตรอินทรีย์หรือสวนออแกนิคซึ่งปราศจากการใช้สารเคมี ดังนั้นทางสวนเราจึงไม่สนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนประกอบจากสารเคมีทั่วๆไป อาทิเช่น สบู่/แชมพู/โคโลนดับกลิ่นตัว/ครีมทาผิว/ยาสีฟัน/ ผงซักฟอก เป็นต้น เนืรองจากสารเคมีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวล้วนเป็นสารพิษร้ายแรงและไม่เหมาะสมที่จะใช้ในสวนออแกนิคแห่งนี้(หรือกับที่อื่นๆด้วยเช่นกัน) อย่างไรก็ตาม ทางสวนเราจัดเตรียมยาสีฟันที่ผลิตด้วยสมุนไพรทางธรรมชาติไว้ให้สำหรับคนอาสาสมัครของเรา
ถ้าหากคุณยังประสงค์ที่จะใช้สบู่ คุณสามารถนำสบู่สมุนไพรหรือสบู่แข็งที่ไม่มีกลิ่นหรือสบู่ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี แต่ตามความเป็นจริงแล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สบู่เลย มนุษย์ดำรงอยู่ได้โดยไม่มีการใช้สบู่มาเป็นเวลา 3 ล้าน ปีแล้ว และไม่มีใครจะมาบ่นให้คุณถ้าคุณมีกลิ่นตัวหรือกลิ่นเหงื่อแรงระหว่างวัน (สัตว์ทุกชนิดมีกลิ่นประจำตัว) และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรู้สึกอับอายกับเรื่องนี้ การสรรเสริญและชื่นชมความเป็นสัตว์ของพวกเราถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง!
ไม่มีประสบการณ์ในการทำเกษตรหรือทำสวนเลยก็สามารถเข้าเป็นคนอาสาสมัครกับพวกเราได้ (อย่างไรก็ตามแต่ การที่คุณเคยทำงานหรือรู้จักการใช้มีด เลื่อย ค้อน จอบหรือเสียม และอุปกรณ์ทำเกษตรอื่นๆ จะถือเป็นการดียิ่ง) แต่มันจะช่วยได้มากถ้าคุณมีประสบการณ์ทางด้าน “การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย” มาอยู่แล้ว และไม่ติดกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่คุณมีที่บ้านหรือติดกับวิถีของคนศิวิไลซ์ และถือเป็นข้อปฏิบัติร่วมกันว่าคุณจะต้องไม่กลัว แมงมุม ทากดูดเลือด แมลงต่างๆ ตะขาบ แมงป่อง หอยต่างๆ ไส้เดือน งู หนู หรือสัตว์เลื้อยคลานจำพวก จิ้งจก ตุ๊กแก จิ้งเหลน กิ้งก่า ตัวเหี้ย ตัวแย้ และสัตว์ชนิดอื่นๆ เป็นต้น (ดูหมายเหตุด้านล่างสุด)
เนื่องจากสวนของเรามีทากดูดเลือด (โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน) จะมีแมงป่องและงูหลายชนิด ฉะนั้นการใส่รองเท้าบูทขณะทำงานในสวนคือทางเลือกที่ปลอดภัยมากที่สุด ทางเราจะเตรียมรองเท้าบูทไว้ให้ถ้าคุณแจ้งเราให้ทราบล่วงหน้าว่าคุณใส่รองเท้าไซส์ไหน
สิ่งที่คุณจะได้ทำและเรียนรู้มีดังต่อไปนี้:
คุณจะได้แลกเปลี่ยนและเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำสวนผสมอย่างยั่งยืนและปลอดสารเคมี ซึ่งถือเป็นงานสวนโดยทั่วๆไป เรียนรู้เกี่ยวกับป่า พืชผักและพันธุ์ไม้ที่พบได้ในสวนและตามเขตป่า รวมถึงงานไม้และอาจจะเป็นงานที่ต้องใช้แรงงานบางคราวแต่ก็ไม่ได้จำกัดงานนัก ได้แก่
- เตรียมดินสำหรับปลูกผัก/ผลไม้/ต้นไม้ป่า
- รถน้ำผักและผลไม้ที่พึ่งปลูก
- เพาะปลูกเมล็ดพืชผัก
- ปลูกต้นไม้และพืชผักในสวน
- เก็บเกี่ยวอาหารในสวนร่วมกัน
- ช่วยทำอาหาร (อาหารเที่ยงและอาหารเย็น)
- ช่วยงานก่อสร้างแบบง่ายๆ/ งานช่างไม้สไตล์บ้านๆและเรียนรู้ทักษะการซ่อมแซมและดูแลรักษาด้วยวัสดุทางธรรมชาติที่เรามีในสวน
- เรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการทำอบเชยตากแห้ง (ฤดูร้อน)
- การทำถ่านจากเศษไม้ไผ่ สำหรับผสมดินและใช้ในห้องแห้ง (ฤดูร้อน)
- การเก็บหน่อไม้และการใช้งานจากไม้ไผ่
- แลกเปลี่ยนและเรียนรู้เทคนิคการสานตระกร้าลายพื้นบ้านหรือลายอย่างง่าย รวมถึงงานจักสานอื่นๆซึ่งทางเรายังไม่มีความเชี่ยวชาญนัก
- ปั่นน้ำสำหรับใช้สอยในครัวและสำหรับรดน้ำให้พืชผักและผลไม้ สวนเราจะปั่นน้ำโดยใช้มือด้วยเครื่องปั่นไดชักแบบโบราณ จากบ่อน้ำที่อยู่ด้านล่างสุดของสวน (ฤดูร้อน)
กิจกรรมหรืองานต่างๆในสวนที่กล่าวไปก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ในช่วงฤดูฝนจะเน้นเรื่องการเพาะปลูกและการดึงหรือถอนหญ้าและในช่วงฤดูร้อนจะเน้นเรื่องการรถน้ำและงานก่อสร้าง/งานไม้ เป็นต้น
คุณสมบัติที่จำเป็น คุณต้องเป็นบุคคลที่:
- เปิดกว้างสำหรับประสบการณ์ใหม่ๆ
- เปิดใจ (ที่สำคัญก็คือ คุณจะได้ยินสิ่งที่คนทั่วๆไปไม่ชอบได้ยินกัน!)
- ไม่มีปัญหากับเรื่องแมลงหรือสัตว์ชนิดต่างๆ
- มีความสนใจเกี่ยวกับเทคนิคการทำเกษตรรูปแบบใหม่อย่างยั่งยืน สนใจแนวทางการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและสภาพแสดล้อม รวมถึงมีความสนใจการใช้ชีวิตทางธรรมชาติ
- มีความสนใจการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและต้องการที่จะเรียนรู้การใช้ชีวิตให้มีคุณภาพ
- ไม่เกรงกลัวว่ามือของคุณจะสกปรกหรือส่วนอื่นๆของร่างกายคุณจะเปรอะเปื้อน (กล่าวคือชอบลุย!)
- มีความคล่องแคล่วและแข็งแรงพอสมควร (ถ้าหากคุณมีโรคแทรกซ้อนสิ่งที่ทางเราควรจะรับทราบไว้ เช่น เบาหวาน อาการภูมิแพ้ต่างๆ และอื่นๆ กรุณาแจ้งให้เราทราบก่อน)
สิ่งที่คุณคุณจะได้รับ:
- ประสบการณ์สุดพิเศษของชีวิตอย่างที่เคยเป็นในอดีต ความเป็นอยู่ของชีวิตในชนบท และช่วงเริ่มต้นวัฒนธรรมของชาวป่าชาวเขายุคใหม่
- ความรู้เบื้องต้นของการทำเกษตรกรรมถาวรในประเทศเขตร้อน ซึ่งแต่ล่ะท่านก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คุณเข้าพัก
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ ผลไม้ พืชผักและสมุนไพรที่มีในสวน
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับนิเวศวิทยาเขตร้อนและความยั่งยืนทางอาหารและป่าไม้
- กิจกรรมเดินป่ากับเรา (ทางเลือกที่สะดวกสุดคือช่วงฤดูร้อน)
- รับใบประกาศนียบัตรสำหรับการเข้าเป็นคนอาสาสมัครเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรียนรู้แนวทางของเกษตรกรรมถาวรและวิถีความยั่งยืนรวมถึงการดำเนินชีวิตด้วยการพึ่งพาตัวเอง
(ดูข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ป่า) จะมาอัพเดตเร็วๆนี้
No comments.