พวกเรามีการวางแผนโครงการอย่างหนักแน่นสำหรับการเยียวยาระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่เราอาศัยอยู่ ในส่วนที่เป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าของ (ขสป.คลองเครือหวาย) ที่เคยถูกทำลายจากไฟป่ามาตั้งแต่ 15 ปีที่แล้วและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผืนป่าแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยไม้ไผ่ป่าขึ้นครอบคลุมบริเวณที่ถูกไฟไหม้ทั้งหมด มีก็เพียงแค่ต้นไม้ใหญ่มากที่สุดที่ยังคงเหลืออยู่แต่ก็มีจำนวนไม่มากนักและพืชตระกูลไผ่เป็นพืชที่เข้าครอบครองพื้นที่ที่ว่างเปล่าได้เร็วมากที่สุด พวกเราชื่นชอบและประทับใจไม้ไผ่ แต่ป่าไม้ที่อุดมไปด้วยความหลากหลายของไม้นานาพันธุ์จะช่วยให้ผืนป่ามีความหลากหลายและมีความหยืดหยุ่นตามธรรมชาติได้มากกว่า
นั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงต้องการที่จะทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ทางกรมป่าไม้ภายใต้โครงการฟื้นฟูด้วยการปลูกป่า โดยขั้นตอนแรกก็คือติดต่อกับกรมป่าไม้เพื่อขออนุญาตและจัดสรรพื้นที่ตัวอย่างที่เราจะดำเนินการตัดไม้ไผ่ป่าออกและแทนที่ด้วยการปลูกต้นไม้ป่าที่พบได้ตามป่าใหญ่จากศูนย์เพาะชำกล้าไม้จันทบุรี อำเภอโป่งน้ำร้อน และทางศูนย์แจกต้นไม้ป่าฟรี ซึ่งเราจะใช้พื้นที่ของเราจำนวนกว่า 8 ไร่ เป็นพื้นที่ตัวอย่างสำหรับวีธีการที่เราจะใช้กับพื้นที่ป่าที่เป็นส่วนที่เราต้องการจะดำเนินโครงการ
บริเวณพื้นที่ตัวอย่างมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นพื้นที่ด้านบนสุดของภูเขาที่อยู่ติดกันกับที่ดินของเราเอง พื้นที่ตรงนั้นเคยเป็นสวนผลไม้จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ได้ยึดนำพื้นที่นี้กลับคืนไปเป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าเนื่องจากว่าขาดการดูแลและไม่มีการทำสวนอย่างต่อเนื่องจากเจ้าของเดิม มันอยู่บนพื้นที่ที่เหมาะสมที่จะดำเนินโครงการการฟื้นฟูมากกว่าด้านหลังสวนเรา
เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่มีต้นไม้ใหญ่ใดๆเลย ต้นผลไม้ที่เหลือก็ล้มตายไปจนหมดจากเหตุการณ์ไฟป่าที่กล่าวไปแล้วนั้น มีต้นไม้บางส่วนที่ใหญ่แล้วที่ยังเหลืออยู่ก็สูงประมาณ (10-15 เมตร) พบว่าเป็นต้นไม้เบิกนำที่โตเร็ว (fast-growing pioneers) จำพวก ต้นหย่อง(Archidendron quocense) และต้นมะพร้าวนกกก (Horsfieldia glabra) เป็นต้น ส่วนที่เหลือเป็นไม้ไผ่ป่าหนาทึบทั้งหมดจนเดินเข้าเกือบจะไม่ได้และส่งผลให้ต้นไม้อื่นขึ้นไม่ได้เลยเพราะไม้ไผ่ป่าทำร่มตลอดแนวชายป่าร่วมกันกับพืชวงศ์หวายหรือเครือไม้หวายเกิดอยู่อย่างกระจัดกระจายไปทั่ว
ฉะนั้นด้วยเหตุที่ว่า ทางกรมป่าไม้ส่งเสริมการสนับสนุนศูนย์เพาะชำกล้าไม้แจกพันธุ์ไม้ประจำถิ่นนานาพันธุ์แบบฟรีๆจึงถือได้ว่าเป็นแหล่งที่พวกเราจะได้รับพันธุ์ไม้พื้นบ้านเพื่อนำมาปลูก เมล็ดพันธุ์เพิ่มเติมนั้นยังสามารถเก็บเอามาจากการออกไปเดินเที่ยวทัศนศึกษาบนป่าดิบชื้นดั้งเดิมอันน่าพิศวงของภูเขาสอยดอยใต้ (สวยมากจริงๆด้านบนสุดพวกเราไปขึ้นมาแล้ว)
สำหรับพันธุ์ไม้ที่จะเป็นต้นใหญ่มากในอนาคตที่พวกเราจะเลือกนำมาปลูกก็จะเป็นต้นไม้จำพวก วงศ์ต้นสะแบงต้นยางนาต้นยูง
(Dipterocarpus alatus; ต้นยางนา),
ต้นไม้วงศ์ไม้ตะเคียนราก (Merawan: (Hopea odorata ต้นตะเคียนทอง)
ต้นไม้วงศ์พะยอม White Meranti* (Shorea roxburghii; ต้นพะยอม)
หรือต้นไม้วงศ์รัง Red Lauan* (Shorea siamensis; ต้นรัง)
พันธุ์ไม้ที่ช่วยในการฟื้นฟูสภาพดิน พวกเราจะเลือกปลูกต้นไม้ในวงศ์ตระกูลถั่วหลายสายพันธุ์ อาทิเช่น ต้นพะยูง Siamese Rosewood* (Dalbergia cochinchinensis) หรือ ต้นฝาง Sappanwood* (Biancaea sappan)
พันธุ์ไม้ทั้งหมดที่เราจะปลูกนั้นยังพบในสวนของเราเองด้วย(คลิกที่นี่สำหรับรายชื่อสายพันธุ์ที่เหมาะสม)
สายพันธุ์ดังกล่าวส่วนมากแล้วเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ใน(สถานะอันตรายหรือเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์) เนื่องมาจากการตัดไม้อย่างหนักและจากความต้องการซื้อของตลาดในระดับสากล ดังนั้น มันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะสร้างความมั่นใจให้ได้ว่าต้นไม้ในสายพันธุ์เหล่านี้ยังคงดำรงอยู่
นอกจากนี้แล้ว เราได้เลือกต้นไม้ในสายพันธุ์ที่ทนทานต่อตวามแห้งแล้งและบางครั้งแม้กระทั่งสายพันธุ์ที่ทนทานต่อไฟป่า และนั้นคือหลักฐานว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีความเมาะสมสำหรับโครงการฟื้นฟูผืนป่าหรือสำหรับการฟื้นฟูสภาพดินที่ถูกทำลายไป ต้นไม้ตามรายการของเรามีการนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ดังเช่น ส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นไม้ที่สามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้ หรือเป็นต้นไม้ที่ดึงดูดสัตว์ป่า หรือต้นไม้ที่ผลิตยางที่มีคุณค่าสำหรับการซ่อมแซ่มของใช้
*มีต้นไม้ป่าหลายชนิดที่ไม่มีชื่อภาษาอังกฤษ ดังนั้นเราจึงใช้ชื่อทางการค้าไม้ ถึงแม้ว่าเราไม่ชอบรูปแบบการปฏิบัติด้านนี้เป็นอย่างมาก แต่มันก็เป็นแหล่งที่มาของชื่อที่เรานำมาใช้ได้
แหล่งอ้างอิง:
ไซมอน การ์ดเนอร์, พินดา สินธิสุนทร, วิไลวรรณ อนุสารสุนทร;ต้นไม้เมืองเหนือ: คู่มือศึกษาพรรณไม้ยืนต้นในป่าภาคเหนือ ประเทศไทย (2000)
No comments.