พวกเราอยู่ที่ไหน

พวกเราอยู่ที่ไหน

สวนของพวกเราตั้งอยู่ในอณาเขตของสันเขาของ​ “ทิวเขาบรรทัด” (Cardamom Mountains) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเทือกเขากระวาน​ บริเวณทางทิศเหนือของภูเขาเล็กๆเป็นส่วนของภูเขาคลองเครือหวาย​ เขตอนุรักษ์​สัตว์ป่า​คลองเครือหวาย​ (ขสป.คลองเครือหวาย) ที่​ อำเภอ​โป่งน้ำน้อน จังหวัด​ จันทบุรี​ (ซึ่งจังหวัดนี้ยังเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดแห่งทุเรียน)​ พวกเราอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองแต่ก่อน ชาวชอง  กลุ่มวัฒนธรรมชนล่าสัตว์-เก็บของป่า ที่ใช้ภาษากลุ่มย่อยเป็นภาษาเปียริก หรือ Pearic language group เบื้องหลังของสวนเราเป็นผืนป่าทอดยาวเหยียดไปจนถึงประเทศ​กัมพูชา​ ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ​ 40​ กิโลเมตร​ สวนของเราตั้งอยู่ทางทิศเหนือ​ ที่ระดับความสูง​ 640 เมตร​  ภูเขาที่เราอยู่สูงประมาณ​ 300​ เมตร​ เหนือระดับ​น้ำทะเล​ ถือว่าเป็นสวนที่อยู่สูงสุดในละแวกนี้​ กับภาพทิวทัศน์​อันแสนงดงามอย่างน่าอัศจรรย์​ใจ

 

ภาพทิวทัศน์​จากในสวนสามารถ​มองเห็นภูเขาสอยดาวใต้ด้วย

 
 
 
เจมส์​  ซี​ สก็อตต์ James C. Scott ผู้เขียนหนังสือเรื่อง​  ศิลปะวิถีของการไม่ถูกปกครอง: ประวัติศาสตร์​อนาธิปไตย​ของคนไร้รัฐในเอเชียอาคเนย์​ (The Art of Not Being Governed – An Anarchist History of Upland Southeast Asia)
 
เขาได้เรียกเทือกเขาที่แผ่ขยายมาจากทางภาคตะวันออกของประอินเดีย​ ลาดตัวผ่านมายังประเทศพม่า​ ​ประเทศ​ลาว​และมาจนถึงประเทศไทยลาดตัวลงต่ำไปยังประเทศ​กัมพูชา​  ว่าเป็นเขต​โซเมีย “Zomia” อาณาจักรโซเมีย​  (หมาถึง​ กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบสูง​ ที่มีการใช้ภาษาในตระกูลภาษาย่อยทิเบต-พม่า​ อยู่หลายภาษา​ โซ​  (zo)​ หมายถึง​ ห่างไกล​ หรืออาศัยอยู่บนภูเขา​ มิ​ (Mi) หมายถึง​ ผู้คน​ ดังนั้น​ คำว่า​ มิ-โซ​ (Mi-zo)​ และ​ โซ-มิ (Zo-mi)​  คือกลุ่มคำที่ใช้อธิบายถึงลักษณะ​ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตแดนเอเชียอาคเนย์​  เพื่อกำหนดเกี่ยวกับชาวเขาที่อาศัยอยู่บนพื้นที่ห่างไกลและอยู่บนพื้นที่ทางภูมิศาสตร์​ที่ยากลำบากที่จะเข้าถึง)​ และเราชอบการใช้ชื่อที่ดังกล่าว​ เนื่องจากว่ามันไม่ได้มีการยืนยันการใช้คำใหม่และการดำรงอยู่อย่างมีเหตุผล​ของ​คนที่ถือรัฐชาติ​เป็นส่วนใหญ่​ (nation-state)​  และมันอธิบาย​แบบเชิงภูมศาสตร์​ ไม่ใช่แบบเขตแดนที่ได้มาจากการเข้าครอบครอง​ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์​ และสงครามระหว่างชายแดนที่ตัดผ่านบริเวณที่มีกลุ่มคนชาติพันธุ์​และพื้นที่อื่นๆ​
 
 
ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกของประเทศไทยมีทุกอย่างที่คนปราถนาที่จะมี​ อาทิเช่น​ ป่าดงดิบชื้นอันแน่นหน่า น้ำตกอันสวยงามต่างๆ​และภูเขาอันสูงตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่​ ส่งผลให้เป็นเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง​ สภาพอากาศก็ค่อนข้างจะอบอ้าวเป็นอย่างน้อย​ (ถ้าอากาศไม่ร้อน)​ ตลอดทั้งปี​ (กระนั้นก็ค่อนข้างจะเย็นสบายในยามกลางคืนในช่วงเดือนมกราคม)​ และยังมีฤดูมรสุม​อันยาวนาน​ ซึ่งหมายถึงมีฝนตกมากกว่าเมื่อเที่ยบกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ​ของไทย​ สามารถ​ที่จะปลูกพืชผักได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย
 
 
ขณะที่ได้มีจัดจำแนกประเภทตามทางการว่าเป็น​ ภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา หรือ ภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าเมืองร้อน (Tropical savanna climate) หรือเป็นสภาพอากาศแบบชื้นและแห้ง​ (tropical wet and dry) ตามระบบการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิพเพินให้แทนด้วยตัวอักษร “Aw” และ “As” (หมายถึงภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา)​ เนื่องจากถูดจัดได้ว่าเป็นฤดูแล้ง​  สวนของพวกเราอยู่ตรงกลางระหว่าง​ Aw/As​ และ​ สภาพอากาศแบบ​ Af (tropical rainforest climate)  คือเขตภูมิอากาศแบบป่าร้อนชื้น​ที่ยังสามารถ​ทำการเพาะปลูกได้เช่นกัน​  ตัวอย่างผลไม้ที่โตได้ดีในสภาพ​อากาศ​นี้คือ​ ทุเรียน​ ​
 
 
ณ​ อำเภอโป่งน้ำร้อน​ ที่เราอาศัยอยู่​ มันสำคัญมากเนื่องในโอกาสนี้เพราะว่าบริเวณที่เป็นหุบเขาเป็นร่องน้ำสำหรับการก่อตัวเป็นเมฆฝนและภูเขาต่างๆดูดซับเมฆฝนในระดับต่ำเป็นส่วนใหญ่​ ดังนั้น​ ที่นี่เราจึงได้มีฝนค่อนข่างชุกชุมและมันไม่เคยแห้งจนเกินไปในฤดูร้อน
 
 
ทางอำเภอใกล้เคียง​ อำเภอสอยดาว​ (ถ้าที่นั้นไม่มีภูเขา)​ สภาพอากาศ​ที่นั้นจะแตกต่างกันมาก ที่นั่นคุณจะเห็นว่ามันเป็นป่าไม้ผัดใบ​ (deciduous forests) ที่ทิ้งใบไปทั้งหมดในฤดูแล้ง​ ส่งผลให้ที่นั่นการปลูกสวนลำใยและสวนมะม่วงกันอย่างหนาแน่น​ ในขณะที่มันแห้งเกินไปสำหรับการปลูกทุเรียน
 
 
หากท่านใดมีความประส่งที่จะเดินทางมาเที่ยวชมสวนของเรา​ สามารถ​ติดต่อเข้ามาก่อนเพื่อจะได้ทราบว่าทางสวนเราจะเปิดรับคนเข้ามาเที่ยวชมสวนหรือไม่​ หลังจากติดต่อเรียบร้อย​แล้วหากเป็นช่วงที่เราเปิดสวนให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมอยู่ท่านก็สามารถเดินทางมาถึงได้อย่างสะดวก​ ​แต่เมื่อท่านเดินทางมาถึงทางแยกที่ต้องขึ้นไปบนสวนเรามันก็ยังสะดวกอยู่จนกระทั่งท่านไปถึงจุดสิ้นสุดของถนนคอนกรีต​ หลังจากนั้นจะเป็นถนนดินแดงและหิน​ ซึ่งจะเพิ่มแค่ความระมัดระวัง​ในการขับรถมากขึ้น เนื่องจากว่าเป็นถนนในซอยจึงไม่กว้างมากและบางครั้งมีเด็กๆเล่นกันอยู่ริมถนนหรือบางครั้งก็จะมีสุนัข​นอนเล่นอยู่กลางถนนไปหมด​ จึงจำเป็นที่จะต้องระวังมาก​ หลังจากผ่านจุดนี้ไป​ ท่านก็จะต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นไปอีกเนื่องจากถนนเส้นนี้จะเป็นถนนที่สูงขึ้นเรื่อยๆเพราะเป็นแนวสันเขา​ ท่านจะต้องมาด้วยรถยนต์​ที่สูงกว่าเพราะรถยนต์​ที่ไม่สูงนักจะขับขึ้นเนินเขานี้ไม่ได้​ และหากท่านเดินทางมาในช่วงฤดูฝนจริงๆ​ ก็อาจจะลำบากนิดหน่อยเพราะความลื่นของถนนบนเนินเขาและบางครั้งก็เกิดเหตุ​การณ์​เช่นว่า​ ฝนตกหนักมาก​ น้ำในคลองก็ล้นเอ่อ​จนไม่สามารถ​ขับรถยนต์​ผ่านได้ต้องจอดรอบนถนนก่อนให้ระดับน้ำลงถึงจะขับลงต่อได้​ หลังจากท่านขับรถ​ผ่านเนินเขาแล้วก็อีกประมาณ​ 100 เมตรก็ถึงทางแยกเข้าสวนของเราแล้ว​  เพียงแค่นี้ท่านก็มาถึงสวนเราได้อย่างปลอดภัยกันทุกคน!

No comments.